วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

วิธีการทำขนมรังผึ้ง

ขนมหวานไทย : ขนมรังผึ้ง (waffle)

* แป้งข้าวเจ้า 4 ถ้วยตวง
* แป้งสาลี 2 ช้อนโต๊ะ
* ถั่วเหลืองต้มบดละเอียด 4 ถ้วยตวง
* ไข่ไก่ (ใช้เฉพาะไข่ขาว) 4 ฟอง
* หัวกะทิ 6 ถ้วยตวง
* น้ำตาลปี๊บ 3/4 ถ้วยตวง
* น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
* เกลือป่น 1 ช้อนชา


  วิธีทำ
1. นำแป้งไปผสมกับ น้ำตาลทราย, เกลือ และถั่วต้มบด คนจนส่วนผสมเข้ากันดี
2. นำไข่ขาวไปตีจนขึ้นฟู จากนั้นจึงนำไปเทผสมกับแป้งที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่หนึ่ง คนจนส่วนผสม ทั้งหมดเข้ากันทั่ว
3. ทาน้ำมันบางๆทั่วแบบพิมพ์ ตักส่วนผสมแป้งเทลงในแบบ พอท่วมให้รีบปิดฝาบนทันที กลับพิมพ์ไปมาทั้งสองด้านให้ถูกความร้อนจนสุกเหลืองทั่ว จึงเคาะออกจากแบบ
4. เสริฟทันทีขณะร้อนๆ หรือ เสริฟทานพร้อมกับไอศครีม (หรือทานกับแยมผลไม้ด้วยก็ได้)

วิธีการทำขนมไข่

ขนมหวานไทย : ขนมไข่

* แป้งสาลี 950 กรัม
* ไข่เป็ด 25 ฟอง
* น้ำตาลทราย 2 กิโลกรัม
* กลิ่นวานิลา 1 ถ้วยตวง
* น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง

   วิธีทำ
1. ตีไข่กับน้ำจนไข่ขึ้นฟู จากนั้นจึงใส่น้ำตาลทรายลงไป ตีจนน้ำตาลละลาย ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
2. นำส่วนผสมไข่ไปใส่ในตระแกรงล่อน เพื่อเอาสิ่งสกปรกออก เมื่อล่อนเสร็จแล้วนำแป้งลงไปผสม ตีจนไข่ขึ้นฟูอีกครั้ง หลังจากนั้นจึงเติมกลิ่นวานิลา
3. นำส่วนผสมแป้งและไข่ที่ทำเสร็จไปหยอดลงในแบบหรือพิมพ์ที่เตรียมไว้ (อย่าใส่จนเต็มแบบ เพราะ เมื่ออบแล้วตัวขนมจะฟูขึ้นอีก ควรใส่ประมาณครึ่งหนึ่งของแบบก็พอ) ควรทาน้ำมันบางๆที่ผิวแบบเพื่อไม่ให้ติด
4. นำไปอบโดยใช้อุณหภูมิประมาณ 180 องศาเซลเซียส อบประมาณ 20-25 นาทีหรือจนสุก จึงนำออกมาจากเตา
5. เคาะขนมออกจากแบบ จัดใส่จานเสริฟ (บางกรณีอาจเสริฟขนมโดยไม่ต้องนำขนมออกจากแบบก็ได้)

วิธีการทำขนมลอดช่อง

ขนมไทย : ขนมลอดช่องน้ำกะทิ
+ ส่วนผสมตัวลอดช่อง +
* แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม
* แป้งเท้ายายม่อม 30 กรัม
* แป้งซ่าหริ่ม 20 กรัม
* น้ำปูนใส 450 กรัม
* น้ำใบเตย 250 กรัม
* น้ำแข็ง
+  ส่วนผสมน้ำกะทิ +
* น้ำกะทิ 250 กรัม
* น้ำตาลปึก 150 กรัม
* เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
* เทียนอบ
+ เพิ่มเติม +
* เผือกนึ่ง, ข้าวเหนียวดำ, ขนุน อื่นๆ

วิธีทำ
1. ทำตัวลอดช่องโดยผสมแป้งข้าวเจ้า, แป้งเท้ายายม่อม, แป้งซ่าหริ่ม เข้าด้วยกัน หลังจากนั้นค่อยๆใส่น้ำ ปูนใสทีละน้อย ขณะเดียวกันก็นวดแป้งให้เข้ากันจนเนียนและเหนียว และค่อยๆใส่น้ำปูนใสจนหมด แล้วจึงใส่น้ำ ใบเตย แล้วนำไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง กวนจนแป้งเนียวและข้นจึงลดไฟลง กวนต่อจนแป้งสุก (แป้งจะมี ลักษณะข้นเหนียว)จึงปิดไฟ
2. เตรียมน้ำเย็นโดย นำน้ำแข็งไปละลายในน้ำจนน้ำเย็นจัด จากนั้นนำส่วนผสมแป้งที่เตรียมไว้ในขั้นตอน ที่หนึ่งไปใส่ลงในพิมพ์ลอดช่อง ค่อยๆกดให้เป็นเส้นหย่อนลงไปในน้ำเย็นที่เตรียมไว้
3. ทำน้ำกะทิโดยนำน้ำตาลปึกผสมกับน้ำกะทิและเกลือป่น นำไปตั้งบนไฟอ่อนๆ ค่อยๆ คนจนน้ำตาลละลายดี จึงปิดไฟ และนำไปอบควันเทียนให้หอม
4. ตักเส้นลอดช่องใส่ถ้วย ราดด้วยน้ำกะทิ และน้ำแข็งทุบ สามารถใส่เครื่องเพิ่มเติมได้ตามต้องการ (เผือกนึ่ง, ข้าวเหนียวดำ, อื่น) เสริฟได้ทันที

วิธีการทำขนมกลีบลำดวน

ขนมหวานไทย : ขนมกลีบลำดวน (ดอกลำดวน)

* แป้งสาลี 100 กรัม
* น้ำมันพืช 50 กรัม (หรือเนยขาว)
* น้ำตาลไอซิ่ง 80 กรัม
* สีผสมอาหาร (แล้วแต่ชอบ)
* เทียนอบ

 วิธีทำ
1. ผสมแป้งสาลีกับน้ำตาลเข้าด้วยกัน นำไปร่อน 2 ครั้ง เสร็จแล้วใส่น้ำมันพืช (หรือเนยขาว) ลงไปผสม นวดจนส่วนผสมทั้งสามเข้ากันดี
2. ปั้นแป้งเป็นลูกกลมๆขนาดเท่าๆกัน ใช้มีดคมๆแบ่งแป้งเป็น 4 ส่วนเท่าๆกัน
3. จับวางเป็น 3 กลีบ ส่วนอีก 1 กลีบที่เหลือให้ปั้นเป็นลูกกลมๆวางตรงกลางกลีบทั้งสามเป็นเกสร ก็จะได้รูปทรงดอกไม้ ทำเช่นนี้จนแป้งหมด เรียงไว้ในถาด
4. นำแป้งไปอบที่อุณหภูมิประมาณ 300 องศาฟาเรนไฮต์ประมาณ 10 - 15 นาทีหรือจนสุก จะได้ขนมที่มีลักษณะผิวนวล กรอบ นำไปอบควันเทียนให้หอม ก็พร้อมรับประทานได้ทันที
หมายเหตุ : ถ้าต้องการกลีบหรือเกสรที่ต่างสีกัน ก็ให้แยกส่วนผสมแป้งในขั้นตอนที่หนึ่ง แล้วผสมสีตาม ที่ชอบขณะใส่น้ำมันพืชลงไปนวด ควรใช้สีโทนอ่อนจะน่ารับประทานมากกว่าสีเข้ม

วิธีการทำขนมข้าวเหนียวเปียกลำใย

ขนมหวานไทย : ขนมข้าวเหนียวเปียกลำใย

* ข้าวเหนียว 150 กรัม
* ลำใย 150 กรัม
* น้ำเปล่า 1 ลิตร
* น้ำตาลทราย 200 กรัม
* ข้าวโพดนึ่งสุกแกะเป็นเม็ด 50 กรัม
* หัวกะทิ 100 กรัม
* เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
* แป้งข้าวเจ้า 1/2 ช้อนชา

 วิธีทำ
1. นำข้าวเหนียวไปซาวในน้ำสะอาด จากนั้นนำไปสะเด็ดน้ำให้แห้ง
2. ปอกเปลือกลำใย คว้านเอาเม็ดออก ทำความสะอาดและล้างด้วยน้ำเปล่า จากนั้นนำไปสะเด็ดน้ำให้แห้ง
3. ตั้งน้ำในหม้อด้วยไฟร้อนปานกลาง รอจนน้ำเดือดจึงใส่ข้าวเหนียวลงไป คนอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้ข้าวเหนียวติดกันเป็นก้อน เมื่อข้าวเหนียวเริ่มสุก จึงใส่น้ำตาลทรายลงไปรอจนเดือดอีกครั้งและน้ำตาลทราย ละลายหมด ใส่ลำใยและข้าวโพดลงไป คนส่วนผสมทุกอย่าให้เข้ากัน ปิดไฟ
4. ทำน้ำราดกะทิ โดยใส่น้ำกะทิ, แป้งข้าวเจ้าและเกลือลงในหม้อเล็ก ตั้งบนไฟอ่อนๆจนเข้ากันดี ปิดไฟและพักไว้
5. ตักข้าวเหนียวเปียกลำใยใส่ถ้วย ราดหน้าด้วยน้ำกะทิ พร้อมเสริฟรับประทานได้ทันทีี

วิธีการทำขนมสำปันนี

ขนมหวานไทย : ขนมสำปันนี

* แป้งมัน 3 1/2 ถ้วยตวง
* น้ำตาลทราย 3 1/2 ถ้วยตวง
* มะพร้าวขูด 500 กรัม
* น้ำลอยดอกมะลิ 2 ถ้วยตวง
* สีผสมอาหาร
* เทียนอบ

  วิธีทำ
1. นำน้ำลอยดอกมะลิไปผสมกับมะพร้าวขูด คั้นเป็นน้ำกะทิออกมา จากนั้นใสน้ำตาลทรายลงไป แล้วนำไปตั้งบนไฟอ่อนๆ เคี่ยวจนงวดเป็นยางมะตูม ปิดไฟและทิ้งไว้ให้เย็น
2. นำแป้งมันไปคั่วบนกระทะให้สุก เสร็จแล้วปิดไฟ ทิ้งไว้ให้เย็น
3. ผสมแป้งที่คั่วแล้ว (ขั้นตอนที่สอง) กับน้ำกะทิเชื่อม (ขั้นตอนที่ 1) และสีผสมอาหาร คนจนส่วนผสมละลายทั่วและเข้ากันดี จึงนำไปอัดใส่แม่พิมพ์ที่เตรียมไว้ อบด้วยเทียน
4. จัดใส่จานเสริฟ รับประทานได้ทันที

วิธีการทำขนมวุ้นกะทิ

ขนมหวานไทย : วุ้นกะทิกาแฟ


+ ส่วนผสมตัววุ้น +
* วุ้นผง 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำเปล่า 5 1/2 ถ้วยตวง
* น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วยตวง
* น้ำใบเตย,น้ำกาแฟ หรือสีผสมอาหาร (จะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้)


+ ส่วนผสมหน้าวุ้น +
* วุ้นผง 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมะพร้าว 2 1/2 ถ้วยตวง
* น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วยตวง
* หัวกะทิ 2 1/2 ถ้วยตวง
* แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
* เกลือ 1 1/2 ช้อนชา
* แม่พิมพ์สำหรับใส่วุ้น (ถ้วยหรือชามเล็กๆ ก็สามารถใช้แทนกันได้)

 วิธีทำ
1. ทำตัววุ้นโดย ใส่ผงวุ้นและน้ำเปล่า ลงในกระทะทองเหลืองแล้วนำไปต้มจนผงวุ้นละลาย (หมายเหตุ : สามารถใส่น้ำใบเตยเพื่อทำวุ้นกะทิใบเตยหรือ น้ำกาแฟเพื่อทำวุ้นกะทิกาแฟ หรืออาจใส่ สีผสมอาหารเพื่อให้ได้สีที่ต้องการสำหรับตัววุ้น)
2. ใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้ละลายดีจึงหรี่ไฟเบาลง
3. ตักส่วนผสมตัววุ้นลงไปในแบบพิมพ์ที่เตรียมไว้ โดยหยอดให้ได้ประมาณ 3/4 ของแบบ และปล่อยไว้ให้วุ้นจับตัวพอตึง
4. ระหว่างรอตัววุ้นแข็ง เตรียมทำหน้าวุ้นโดย ใส่ผงวุ้นและน้ำมะพร้าว ลงในกระทะทองเหลืองแล้วนำไปต้มจนผงวุ้นละลาย
5. จากนั้นจึงใส่แป้งข้าวโพด, หัวกะทิ (ประมาณ 1/2 ถ้วยตวง) และ เกลือลงไปในส่วนผสมหน้าวุ้น คนอย่างต่อเนื่องจน ส่วนผสมละลายเข้ากัน
6. ใส่หัวกะทิที่เหลือลงไป คนจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี จากนั้นจึงนำส่วนผสมของหน้าวุ้นไปหยอดใส่พิมพ์ให้เต็มอย่างปราณีต (พิมพ์ต้องใส่ตัววุ้นก่อน และต้องรอจน ตัววุ้นแข็งพอตึงๆก่อน มิเช่นนั้นตัววุ้นและหน้าวุ้นจะผสมกัน)
7. เมื่อหน้าวุ้นและตัววุ้นแข็งดีแล้วก็ให้เคาะออกจากแบบ จัดใส่จานและเสริฟได้ทันที